ของจริงนิ่งเป็นใบ้

อยู่กับรู้ไปเรื่อยๆ..
จนมันไร้..ในท่ามกลางสรรพสิ่ง

"ว่างอยู่ รู้อยู่"

รู้ถึงสรรพสิ่ง ที่ถูกปัจจัยปรุงแต่งขึ้นมา..
ท่ามกลางความว่าง..ของสภาวะรู้

เคยได้ยินที่ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไหม..

"ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้ไม่ใช่ของจริง"..

เราก็นึกว่า...อยากเป็นของจริง ไม่พูดดีกว่า..
ใช่อย่างนั้นหรือเปล่าโยม ?

"ของจริงนิ่งเป็นใบ้"
คือ..วิสังขาร ไร้การปรุงแต่ง..

ส่วน "ของพูดได้ไม่ใช่ของจริง"
คือ..อาการจิตตสังขาร ความปรุงแต่ง..

ความปรุงแต่ง..เป็นของปลอม เป็นของชั่วคราว
ของจริง..เป็นวิสังขารธรรม ไร้การปรุงแต่ง คงทนถาวร

ข้างในมันว่าง..นิ่งสงบ..แต่ข้างนอกมันพูดได้ไหมโยม ?
..มันก็พูดได้เป็นปกติของมัน

ขันธ์ก็ส่วนขันธ์ ความปรุงแต่งก็ส่วนความปรุงแต่ง

"เห็น..ทั้ง 2 ฝั่ง"

..ผู้เข้าถึงสภาวะนี้ก็จะเข้าใจเองใช่ไหม
ก็จะเข้าใจได้เองว่าสภาวะนี้..มีอยู่
ที่สามารถอยู่ได้ทั้ง 2 ฝั่งเลย..

ฝั่งที่ปรุงก็ถูกรู้ แล้วฝั่งที่ไม่ปรุงก็ว่างบริสุทธิ์อยู่อย่างนั้น
ธรรมชาติตรงนี้มันบริสุทธิ์อยู่แล้ว..

เมื่อใดที่ถอดถอนอุปาทานได้..ก็เข้าถึงธรรมชาตินี้ได้

นั่นแหละ คือ...

"ธรรมชาติที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ เมื่อ 2500 ปีมาแล้ว"

"ธรรมชาติที่พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้"

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้