พระพุทธองค์ ตรัสว่า...
หากพูดถึง กองกุศลธรรมทั้งปวง
บ่อเกิดแห่งคุณงามความดีทั้งปวง
ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ สติปัฏฐานสี่
ฝึกสติปัฏฐานสี่ อยู่เป็นประจำ
สะสมบุญกุศล อริยทรัพย์อันประเสริฐให้แก่ตัวเองอยู่เนืองๆ
สิ่งนี้แหละ ที่จะเป็นที่พึ่งแท้จริงให้กับท่านทั้งหลาย เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล
เพื่อความสุข ตลอดกาลนานได้
ทรัพย์สมบัติต่างๆทางโลก ก็เป็นสิ่งที่เราสามารถ ใช้ประโยชน์ได้ในขณะที่เรามีชีวิตเท่านั้น
แต่เมื่อใดต้องจากโลกนี้ไป
สิ่งเหล่านี้ ก็ไม่สามารถที่จะให้คุณค่าอะไรแก่เราได้
มันเป็นของ ของโลก มันไม่ใช่ของๆเรา
บาทเดียว ก็เอาไปไม่ได้
ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่เป็นชื่อเรา
รถ ที่เป็นชื่อเรา
ที่ดิน ที่เป็นชื่อเรา
ทรัพย์สมบัติต่างๆ ที่เป็นชื่อเรา
มันเป็นของ ของเราหรือเปล่า?
หรือว่ามันเป็นของ ของโลก?
ถ้ามันเป็นของ ของเราจริงๆ เราก็ต้องเอาไปได้
แต่ถ้าวันนี้เราตายลงไป เราเอาอะไรไปได้บ้าง?
มันเป็นของ ของโลก
มันไม่ใช่ของ ของเรา
เราเสียเวลากับสิ่งเหล่านี้ไปมากน้อยแค่ไหน?
โดยไม่ได้สะสมอริยทรัพย์อันประเสริฐ
ที่เป็นคุณค่าที่แท้จริง
ที่จะทำให้เราเข้าถึงสาระประโยชน์แท้จริงของชีวิตได้
เราเสียเวลาไปเท่าไหร่
สะสมทรัพย์ภายนอกอย่างเดียว
ซึ่งเป็นของ ของโลก ไม่ใช่ของ ของเรา
เป็นสิ่งที่เราหยิบยืมใช้ได้ แค่ช่วงที่เรามีชีวิตอยู่
แต่อริยทรัพย์อันประเสริฐ
เป็นสิ่งที่จะติดตัวเราไปตลอดกาล
เป็นของสากล เป็นของธรรมชาติ
ตราบใดที่เรายังต้องท่องเที่ยวไปในวัฏสงสาร
"อริยทรัพย์" อันประเสริฐนี้
จะเป็นที่พึ่งที่แท้จริงให้แก่ท่านทั้งหลาย
ชักนำให้ท่านทั้งหลาย ท่องเที่ยวไปในสุคติภูมิ
พบแต่ความสุข ความสบาย
ทำให้ท่านทั้งหลาย หลุดจากความทุกข์ทรมาน
มันคือ ทรัพย์ที่เป็นของสากล
แต่ทรัพย์ทางโลก มันเป็นแค่ของ ของโลก
เพราะฉะนั้น สิ่งที่อยากจะแนะนำก็คือ
ให้ฝึกตามที่พาฝึกอย่างนี้อยู่เนืองๆในทุกๆวัน
มันจะเป็นประโยชน์แก่ท่านทั้งหลายมาก
โดย พระมหาวรพรต กิตติวโร