ถ้าเราฝึกอยู่ทุกวันเป็นไปได้หรือไม่ว่า
สภาวะรู้หรือสมาธิจะลดลง?
เพราะรู้สึกว่าเมื่อก่อนรู้ตัวได้ดีกว่านี้
-------------------------------------------
ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยหลายอย่างนะ
บางทีเราอาจจะมีเรื่องราวต่างๆมากขึ้น
กำลังสติก็ลดลงได้ ก็ค่อยๆไปฝึกไป
.
กำลังสติจะน้อยหรือกำลังสติจะมาก
ก็ให้รู้สึกตัวให้เป็นนิสัยแล้วกัน
.
เพราะว่าชีวิตของคฤหัสถ์ฆราวาสนั้น
มีภารกิจต่างๆมาก
แต่เราก็ฝึกให้ได้นิสัยไปเรื่อยๆ
.
กำลังสติจะบางมากหรือกำลังสติดีบ้าง
ก็ไม่เป็นไร
ทำให้ได้นิสัยปัจจัยไป
.
เพราะว่าเพียงแค่วันหนึ่งเรารู้สึกตัวสักครั้งหนึ่ง
ก็เป็นประโยชน์มหาศาล
.
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
ผู้ที่เจริญอานาปานสติ
มีสติรู้ลมหายใจเข้าออกแม้เพียงชั่วขณะหนึ่ง
.
ก็ทรงตรัสว่า
ไม่ว่างจากฌาน
ทำตามคำสอนของพระศาสดา
ไม่ฉันข้าวของชาวแว่นแคว้นเสียปล่าว
จะกล่าวไปไยถึงผู้มากด้วยอานาปานสติ
.
วันหนึ่งรู้สึกตัวสักครั้งหนึ่ง
พระพุทธองค์ก็ทรงสรรเสริญ
.
แล้วมีประโยชน์กับชีวิตของโยมจริงๆอย่างคาดไม่ถึง
ถ้าโยมได้นิสัยแห่งความรู้สึกตัว
ณ ขณะที่รู้สึกตัวขึ้นมา
จิตที่เป็นกุศลก็เกิดขึ้นแล้ว
.
สติทำให้เราหลุดจากอบายภูมิได้
แต่ถ้าเราไม่เคยฝึกเราจะได้สติไหม?
ไม่ได้!..
ก็หลงภพหลงภูมิไปเรื่อย
ยิ่งไม่มีกายหยาบ ยิ่งรู้สึกตัวยากนะ
.
แต่ถ้าเราเคยฝึกไว้
มากบ้าง น้อยบ้าง ให้เป็นนิสัยปัจจัย
สติจะช่วยเราเอง
.
เพราะถ้าเราฝึกไว้ชำนาญจริงๆ
ถึงไม่มีกาย..ก็รู้สึกตัวได้!!
.
เพราะฉะนั้น ถ้าเรารู้จักสติของจริง
เราจะพบว่าเป็นประโยชน์มหาศาลมาก
เพราะฉะนั้นเราควรฝึกให้เป็นนิสัยปัจจัยไว้
เป็นประโยชน์ทั้งปัจจุบัน
เป็นประโยชน์ทั้งสัมปรายภพ
บุญกุศลก็พอเป็นที่พึ่งให้เราได้
.
แต่..ที่พึ่งที่แท้จริงก็คือ..สติเนี่ยแหละ
และบ่อเกิดของบุญกุศลทั้งปวงก็คือ สติเนี่ยแหละ
และการที่จะพ้นจากทุกข์ได้ก็ สติเนี่ยแหละ
.
เพราะฉะนั้นยังไม่เห็นอะไรที่จะสูงค่า
ยิ่งกว่าการพัฒนาสติเลย!!
-------------------------------
พระมหาวรพรต กิตฺติวโร