ยังมีโอกาสอยู่

(หากคลิกรับชมครั้งแรกไม่เล่น ให้คลิกอีกครั้ง)

ที่พระพุทธองค์ ได้ตรัสไว้ว่า
"การที่เห็นโลกตามความเป็นจริง
แม้มีชีวิตอยู่เพียง วันหนึ่งคืนหนึ่ง
ก็ประเสริฐกว่า มีชีวิตมาร้อยปี แต่ยังหลับใหลอยู่"
.
ที่เราใช้ชีวิตอยู่ในโลก ทำสิ่งต่าง ๆ
มันก็เป็นเพียงของ ชั่วครู่ ชั่วคราว ของโลก
จริงๆ แล้ว มันก็ไม่ได้มีสาระอะไร
ทบทวนชีวิตที่ผ่านมา ทั้งชีวิตเรานี่
มันก็ของชั่วคราว
.
แล้วชีวิตบนมนุษย์โลก มันก็ไม่ได้ยืนยาวนานอะไร
บางคนอาจผ่านมาถึงวัยกลางคน
40 ปี. 50 ปี.
เหมือนจะผ่านอะไรมามาก
แต่ชีวิตบนมนุษย์โลก เมื่อเทียบกับชีวิตในวัฏสงสาร
มันช่างสั้นนัก
.
พระพุทธองค์ได้อุปมาถึง
ความสั้นของชีวิตของความเป็นมนุษย์
เปรียบเหมือน หยดน้ำ บนยอดหญ้า
กลางคืน น้ำค้างมันลง
พอรุ่งอรุณขึ้นมาก็เหือดแห้งไปเร็ว ฉันใด
เปรียบเหมือน หยดน้ำ ที่หยดลงกระทะที่มีความร้อนสูง
ย่อมเหือดแห้งไปเร็วฉันใด
.
ชีวิตมนุษย์ต่อให้เรายืนยาวนาน 70 ปี. 80 ปี.
ก็ช่างสั้นนัก
เมื่อเทียบกับชีวิตในวัฏสงสาร
มันยาวนานกว่ามาก
แต่สิ่งที่เราได้ทำไว้ ในช่วงที่เรามีชีวิต
มันกลับส่งผล สืบต่ออย่างยาวนาน
ไม่ว่า จะเป็นสิ่งที่ดี หรือ สิ่งที่ไม่ดี ก็ตาม
.
แต่ส่วนใหญ่แล้ว ชาวโลกก็ จะก่อการเบียดเบียน
ส่วนใหญ่ก็ เพิ่มความหนักให้แก่ตัวเอง เป็นส่วนใหญ่
มีส่วนน้อยที่ จิตใจดีงาม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
ก็จะเป็นวิถีจิต ที่ลอยขึ้นสูง
.
และมีส่วนน้อยขึ้นไปอีก
ที่จะได้มีโอกาสพบพระพุทธศาสนา
มีศรัทธาที่จะฟังธรรม ปฏิบัติธรรม
ตามคำสั่งสอนของ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เพื่อปลดแอกตนเอง
ออกจากวงจรแห่งวัฏสงสารทั้งปวง
.
โอกาสเช่นนี้ เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง
แต่ปัจจุบัน ท่านทั้งหลาย ก็มีโอกาสอยู่
ก็ไม่รู้หรอกว่า จะมีโอกาสแบบนี้ไปอีกกี่วัน,
กี่เดือน, หรือ กี่ปี.
คืนนี้ เราล้มตัวนอน เราอาจจะจากโลกนี้ ไปเลยก็ได้
ความตาย เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเราทุกคนอย่างแน่นอน
.
แต่ตราบใด ที่เรายังมีชีวิตอยู่
มันคือโอกาสของพวกเราทุกคน
ก็พึงขวนขวาย เจริญสมณธรรม
เพื่อกระทำให้แจ้ง ซึ่งพระนิพพานได้
จะได้ไม่เป็นผู้ที่ร้อนใจ ในภายหลัง
เมื่อใด ที่จากโลกนี้ไป
จะร้อนใจภายหลังว่า...
รู้งี้ เราน่าจะทำให้มันเต็มที่...
มันก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว
.
เพราะฉะนั้น ในแต่ละวัน
อย่าปล่อยให้วัน เวลา ล่วงเลยไป
โดยที่ไม่ได้ฝึกหัด ปฏิบัติธรรม
ชำระตนเองให้หมดจดจากเครื่องเศร้าหมองต่าง ๆ
เรียกว่า แข่งกับภัย ที่จะเกิดขึ้น
ภัย คือ ความแก่
ภัย คือ ความเจ็บไข้ ได้ป่วย
ภัย คือ ความตาย มันเกิดขึ้นกับเราทุกๆ คน อยู่แล้ว
.
ก็ปฎิบัติเพื่อแข่ง กับ ภัยที่มันจะเกิดขึ้น
ไปรอ ทุกขเวทนามาก ไม่สบายมาก
ไปเร่งปฏิบัติ มันจะไม่ทันกาล
เพราะฉะนั้น ในทุกๆ วัน
พิจารณาว่า วันนี้ เรามีชีวิตอยู่แค่วันนี้
เราจะ ทำอะไร?
.
ครั้งหนึ่ง พระพุทธองค์ก็ตรัสถาม พระอานนท์ว่า
"ดูกร อานนท์ เธอระลึกถึงความตาย
วันละกี่ครั้ง?"
พระอานนท์ กราบทูลว่า
"วันละ 7 ครั้ง พระพุทธเจ้าข้า"
พระอานนท์ วันหนึ่ง ระลึกถึงความตาย 7 ครั้ง
แต่ พระพุทธองค์ ตรัสว่า
"ตถาคต ระลึกถึงความตาย ทุกลมหายใจ เข้าออก"
นี่ พระพุทธเจ้านะ
.
เพราะฉะนั้น ความตาย
เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ใน ทุกๆ ขณะจิต
แม้ขณะที่นั่งฟังตรงนี้
เราอาจจะตายตรงนี้เลย ก็ได้ ไม่ต้องรอไปนอนหรอก
ความตาย เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
.
เพราะฉะนั้น การที่เรา มีสติ
ในทุก ลมหายใจ เข้าออก นี่แหละ
คือสิ่งที่เรียกว่า อยู่ในความไม่ประมาท
ความไม่ประมาท ก็คือ
ความเป็นผู้มี สติ-สัมปชัญญะ
เป็นผู้ตื่นอยู่เสมอ
........................................
ธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตติวโร

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้