Admin_support
รวมธรรมะโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร (ชุด ๑) (15215 อ่าน)
14 พ.ค. 2562 02:26
ดั่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หนทางนี้เป็นทางสายเอก
เป็นไปเพื่อความหมดจดบริสุทธิ์แห่งสัตว์ทั้งหลาย
เป็นไปเพื่อข้ามพ้นความโศก ความร่ำไรรำพัน
เป็นไปเพื่อความดับความทุกข์กาย
ความทุกข์ใจ ความคับแค้นใจ
เป็นไปเพื่อการบรรลุธรรมที่ถูกต้อง คือพระนิพพานได้
.
สติปัฏฐานสี่เป็นมรดกธรรมอันล้ำค่า
ที่พระพุทธองค์ทรงประทานไว้ให้แก่ชาวโลก
หนทางที่เราจะสามารถพ้นจากสภาพแห่งกองทุกข์ทั้งปวง
พบกับความสงบสุขที่แท้จริงของชีวิตได้
.
จึงนับว่าเป็นวาสนาของท่านทั้งหลาย
ที่ได้มีโอกาสเกิดขึ้นมาพบพระพุทธศาสนา
มีโอกาสที่จะได้ปฏิบัติธรรม
ทำตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
การเจริญสติปัฏฐานสี่ เจริญอริยมรรคมีองค์แปด
นอกจากจะเป็นหนทางของความพ้นจากทุกข์
พบกับความสุขที่แท้จริงของชีวิต
.
การเจริญสติปัฏฐานสี่
ก็จะช่วยให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เรียกว่ามันเกื้อกูลทั้งทางโลกและทางธรรม
ทุกคนเกิดมาก็อยากจะมีชีวิตที่ดีมีความสุข
เป็นธรรมชาติของทุกคน
ที่ไม่อยากพบเจอความทุกข์ มีชีวิตที่ดีมีความสุข
.
การปฏิบัติธรรมนี่แหละ
ที่จะทำให้เราพบสิ่งเหล่านั้นได้
ถ้าเราได้มีโอกาสเจริญสติปัฏฐานสี่อยู่เนือง ๆ
เราจะพบประสบการณ์อันล้ำค่าของชีวิต
ด้วยตัวของเราเอง
ทำให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้น
จากคนเป็นคนเร่าร้อน เป็นคนมักเครียด
วุ่นวายใจ วิตกกังวล
ดั่งที่ชาวโลกทุกคนประสบอยู่ทุกวันนี้
.
มีใครไม่เคยเครียดบ้าง เคยไหมเครียดจนนอนไม่หลับ
เครียดมากเดือดเนื้อร้อนใจ
ไม่สามารถวางสิ่งต่างๆเหล่านั้นได้
การที่เรามีสตินี่แหละเป็นคำตอบของชีวิต
สามารถคลายจากความเครียด ความวิตกกังวลต่าง ๆ
ทำให้เรานอนหลับสบายขึ้น
.
ใครเคยเครียดคิดมาก จนต้องอาศัยยานอนหลับบ้าง
แต่ถ้าเราได้ปฏิบัติธรรม ธรรมโอสถนี่แหละจะรักษาเรา
ถ้าเราปฏิบัติไปเรื่อย ๆ
สุขภาพกายของเราก็จะดีขึ้น สุขภาพจิตของเราก็จะดีขึ้น
จะได้สัมผัสถึงความตั้งมั่น
ความสงบร่มเย็นของจิตใจขึ้น
อดทนต่อสิ่งต่างๆภายนอกได้มากขึ้น
มีสมาธิในการศึกษาเล่าเรียน
ในการทำงานต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
เรียกว่ามันพัฒนาศักยภาพของตัวเราเองให้สูงขึ้น
.
เพราะฉะนั้นการปฏิบัติธรรม
ที่เป็นไปเพื่อการออกจากทุกข์ออกจากวัฏฏะ
แต่ในอีกด้านหนึ่งก็จะช่วยพัฒนาชีวิตของเรา
ทำให้เราอยู่กับโลกได้อย่างอยู่เย็นเป็นสุข
มีขีดความสามารถที่จะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ
ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตได้
ลดความผิดพลาดต่าง ๆ ในชีวิตเราได้
ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถพัฒนาได้ถ้าเรามีสติ
.
.................................
ธรรมบรรยาย โดยพระมหาวรพรต กิตติวโร (ป.ธ.๖)
Admin_support
ผู้ดูแล
mtom78632
7 ธ.ค. 2565 16:44 #11
soem sites that offer download games have viruses and spywares on it. so make sure to have some antivirus on your PC,, how to trend on dextools
mtom78632
ผู้เยี่ยมชม
mtom78632
13 ธ.ค. 2565 14:07 #13
Good post. I study one thing more challenging on totally different blogs everyday. It is going to all the time be stimulating to learn content material from different writers and observe a bit of one thing from their store. I prefer to make use of some with the content material on my blog whether you don’t mind. Natually I provide you with a hyperlink in your web blog. Thanks for sharing. capital.com
mtom78632
ผู้เยี่ยมชม
mtom78632
14 ธ.ค. 2565 19:33 #14
Youre so cool! I dont suppose Ive read anything like that before. So nice to seek out somebody with some original applying for grants this subject. realy we appreciate you beginning this up. this excellent website is one area that is needed on-line, a person with a little originality. useful purpose of bringing a new challenge towards web! disposable carts
mtom78632
ผู้เยี่ยมชม
mtom
17 ธ.ค. 2565 12:46 #15
Je pourrais vous transférer les url pour plus de miniatures sur cette question. Ecrivez moi simplement… 파워볼 전용 사이트
mtom
ผู้เยี่ยมชม
mtom
20 ธ.ค. 2565 19:14 #18
An impressive share, I recently with all this onto a colleague who had previously been doing a small analysis for this. And that he the fact is bought me breakfast because I uncovered it for him.. smile. So i want to reword that: Thnx with the treat! But yeah Thnkx for spending any time go over this, I am strongly regarding this and really like reading on this topic. If at all possible, as you become expertise, would you mind updating your site with increased details? It can be extremely of great help for me. Massive thumb up because of this short article! best forex brokers
===========
Lovely blog! I am loving it!! Will come back again. I am bookmarking your feeds also 토토사이트
mtom
ผู้เยี่ยมชม
mtom
2 ม.ค. 2566 15:10 #20
Nice post. I discover something more challenging on diverse blogs everyday. It will always be stimulating to read content from other writers and employ a little from their site. I’d choose to use some together with the content in this little blog regardless of whether you do not mind. Natually I’ll provide a link on the internet weblog. Appreciate your sharing. eos파워볼
mtom
ผู้เยี่ยมชม
motm
3 ม.ค. 2566 16:45 #21
Great job, I was doing a google search and your site came up for homes for sale in Altamonte Springs, FL but anyway, I have enjoyed reading it, keep it up! https://kkmtm.com
motm
ผู้เยี่ยมชม
mtom
11 ม.ค. 2566 17:58 #23
Hey, I simply hopped over for your website by means of StumbleUpon. Now not one thing I’d in most cases read, but I appreciated your emotions none the less. Thanks for making one thing price reading. E Commerce license
mtom
ผู้เยี่ยมชม
mtom
16 ม.ค. 2566 13:48 #25
I am extremely impressed together with your writing abilities neatly as with the structure for your weblog. Is this a paid subject matter or did you modify it yourself? Anyway stay up the nice high quality writing, it’s rare to peer a nice blog like this one nowadays. form llc & llc benefits
mtom
ผู้เยี่ยมชม
mtom
17 ม.ค. 2566 03:23 #26
Made to measure curtains… [...]check out the sites listed below, worth a read for interiors and rugs enthusiasts[...]… property in bd
mtom
ผู้เยี่ยมชม
mtom
19 ม.ค. 2566 20:00 #27
I always was interested in this subject and still am, appreciate it for putting up. slot gacor
---------
Hello, i like the way you post on your blog. sbobet
mtom
ผู้เยี่ยมชม
mtom
23 ม.ค. 2566 22:24 #28
The best woman speeches and toasts must occupy and give memorialize for any groom and bride. Beginning car speakers face-to-face with flashy crowd should realize typically the gold colored concept pointing to presentation, which is to be your own home. best man jokes 메이저토토사이트
mtom
ผู้เยี่ยมชม
mtom
27 ม.ค. 2566 15:24 #29
Hello, I discovered your weblog in the new directory of blogs. I dont know how your website emerged. Your weblog looks good. Enjoy a nice day. judi online
-------
Some truly terrific work on behalf of the owner of this site, utterly outstanding subject matter. 메이저놀이터 추천
mtom
ผู้เยี่ยมชม
mtom
1 ก.พ. 2566 12:55 #30
Our god bless people, your blog could be the approach carrier for great organization. I actually prefer we could complete certain business along. 바카라사이트
==========
Greetings, Can I grab that photo and implement that on my blog? Akun Pro Jepang
mtom
ผู้เยี่ยมชม
mtom
4 ก.พ. 2566 14:13 #32
The color of your blog is quite great. i would love to have those colors too on my blog.:*— trash chute latch
mtom
ผู้เยี่ยมชม
mtom
6 ก.พ. 2566 15:54 #33
Pretty section of content. I just stumbled upon your weblog and in accession capital to assert that I acquire actually enjoyed account your blog posts. Any way I will be subscribing to your augment and even I achievement you access consistently fast. payment processing iso
mtom
ผู้เยี่ยมชม
mtom
15 ก.พ. 2566 23:44 #36
I’m extremely impressed with your writing skills neatly as with the format on your blog. Is this a paid subject matter or did you customize it yourself? Anyway keep up the nice high quality writing, it is uncommon to peer a nice blog like this one nowadays. Mountain guide in Nepal
===========
I do not even know how I ended up here, but I thought this post was good. I don’t know who you are but certainly you are going to a famous blogger if you are not already Cheers! 網頁製作
mtom
ผู้เยี่ยมชม
mtom
7 มี.ค. 2566 17:59 #37
Considerably, the article is in reality the greatest on this noteworthy topic. I agree with your conclusions and will eagerly watch forward to your next updates. Saying cheers will not just be sufficient, for the wonderful clarity in your writing. I will immediately grab your rss feed to stay privy of any updates! 시흥출장안마
mtom
ผู้เยี่ยมชม
mtom
9 มี.ค. 2566 00:55 #38
You can certainly see your expertise in the work you write. The world hopes for even more passionate writers like you who aren’t afraid to say how they believe. At all times go after your heart. https://logintridewi.me/
mtom
ผู้เยี่ยมชม
motm
13 มี.ค. 2566 13:25 #39
I am extremely a new comer to the web and necessary to review this subject. Thought it absolutely was a great article perfectly written and helpful. I’ll definitely be time for your internet site to read more articles as i loved that one.. 먹튀검증사이트
motm
ผู้เยี่ยมชม
mtom
16 มี.ค. 2566 18:35 #40
Have you ever considered creating an e-book or guest authoring on other sites? I have a blog based on the same theme if you’re interested. LINK SERVER INTERNASIONAL
mtom
ผู้เยี่ยมชม
Admin_support
9 มิ.ย. 2562 18:01 #3
ท่านทั้งหลายก็มีกำลังใจที
มาสู่การปฏิบัติธรรม เจริญสติปัฏฐานสี่ได้
เราก็ตั้งใจของเราให้ดี วางแล้วก็วางให้จริง
ปิดโทรศัพท์ ลองตัดภาระต่าง ๆ
เครื่องกังวลเครื่องร้อยรัด
ลองมีสติอยู่กับตัวเองดู ฝึกที่จะอยู่กับตัวเอง
ทำความรู้สึกตัวอยู่เสมอ ๆ ดู
เรียกว่าฝึกที่จะหยุดใจไว้น
.
ปกติใจมันนิ่งหรือเปล่า
ส่วนใหญ่แล้วมันก็ไหลไปเรื่
เรียกว่าเราอยู่กับโลกของคว
คนเราทุกวันนี้มันก็ทุกข์เพ
เกิดความเร่าร้อนต่าง ๆ ตามมามาก
เกิดความเครียดความวิตกกังว
สุขภาพจิตแย่ สุขภาพกายก็พลอยแย่ไปด้วย
โรคภัยไข้เจ็บก็ตามมามาก
ทำงานเท่าไรก็หมดค่ารักษาพย
โรคต่าง ๆ ก็มาจากสุขภาพจิตเป็นส่วนให
ความเครียดความวิตกกังวล
.
แต่ถ้าเราดำเนินชีวิตอย่าง
ปล่อยวางสิ่งต่าง ๆ เป็น
ความเครียดไม่เกิด ความวิตกกังวลไม่เกิด
แล้วเราจะพบเลยว่าชีวิตเราด
เราสามารถที่จะแก้ไขปัญหาต่
โดยไม่ทุกข์ไปกับมันได้
.
คนที่ฝึกจิตได้ดีแล้วจนนิ่
เขาจะมีความสุขกับการอยู่กั
แสวงหาสิ่งต่าง ๆ ภายนอกลดลง
แต่ถ้าใจเรามันไม่นิ่ง
มันต้องคอยแสวงหาไปเรื่อยไม
.
แล้วคนที่เขาฝึกสติให้ตั้ง
เมื่อถึงเวลาที่ต้องทำงานสร
ก็จะมีความสร้างสรรค์ต่าง ๆ
ที่น่าทึ่งน่าอัศจรรย์เนี่ย
หน้าที่การงานเรา ชีวิตเรา ครอบครัวเรา
การใช้ชีวิตของเรามันจะดีขึ
ถ้าเราปฏิบัติธรรมได้ถูกต้อ
ความเร่าร้อนลดลง ใจเย็นขึ้น สงบขึ้น
มีความสุขขึ้น เบิกบานขึ้น
เราจะสัมผัสประสบการณ์ต่าง ๆ
เหล่านี้ได้ด้วยตนเอง ถ้าเราปฏิบัติธรรม
.
..........................
ธรรมบรรยาย โดยพระมหาวรพรต กิตติวโร (ป.ธ.๖)
Admin_support
ผู้ดูแล
Admin_support
9 มิ.ย. 2562 18:03 #4
ในการเจริญสติปัฏฐานสี่
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
ผู้ที่เจริญสติปัฏฐานสี่
จะปรารถนาความพ้นจากทุกข์หร
ก็สามารถพ้นได้ถ้าปฏิบัติถู
.
พระพุทธองค์ทรงสอนว่า
#ตั้งกายตรงดำรงสติมั่น
ตรงนี้คือหัวใจ ของการเจริญสติปัฏฐานสี่ทั้
#ดำรงสติมั่น คือ #รู้ธรรมเฉพาะหน้า
ถ้าเราเริ่มต้นที่ดำรงสติมั
เรียกว่าการเจริญสัมมาสติ
คือการเจริญสติที่ถูกต้อง
ผลที่ตามมาก็จะถูกต้องไปเอง
.
สัมมาสติ ดำรงสติมั่น รู้ธรรมเฉพาะหน้าเป็นอย่างไ
ใครรู้บ้าง ดำรงสติมั่นแต่ละคนก็ไม่เหม
เป็นสิ่งที่ยากอยู่ถ้าเราจะ
แต่ลักษณะของมันสำหรับคนที่
สิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร
มันจะเกิดสิ่งที่เรียกว่าคว
.
ในสติปัฏฐานที่พระพุทธองค์
มีความเพียร มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม มีสติ
ละความพอใจ ไม่พอใจในโลก
ตรงนี้แหละคือวิธีการปฏิบัต
ตรงนี้ถ้าที่หลวงพ่อ(ท่านเจ
หลายท่านเป็นศิษย์วัดมเหยงค
หลวงพ่อก็จะสอนว่า หยุดใจไว้นิ่ง ๆ ไม่วิ่งไปจับอารมณ์
หยุดใจไว้นิ่ง ๆ รู้ทุกสิ่งเป็นเช่นนั้นเอง
นั่นคือสภาวะของการดำรงสติม
.
จิตมันจะหยุดนิ่งตั้งมั่นอ
ไม่เกิดกระแสที่เรียกว่าวิ่
ไม่เกิดอาการที่เรียกว่า ตามดู ตามรู้ จิตนิ่งตั้งมั่นอยู่
แต่รู้สภาวธรรมตามความเป็นจ
มันจะต่างจากการที่เราไปเพ่
ถ้าเราไปเพ่งที่จุดใดจุดหนึ
มันนิ่งแต่มันไม่รู้ตามความ
แต่ถ้าเราหยุดใจโดยไม่ต้องไ
สิ่งที่เกิดขึ้นคือมันจะเกิ
ถ้าเราวางเป็น ดำรงสติมั่นเป็น
..........................
ธรรมบรรยาย โดยพระมหาวรพรต กิตติวโร (ป.ธ.๖)
Admin_support
ผู้ดูแล
Admin_support
9 มิ.ย. 2562 18:05 #5
วิธีปฏิบัติเบื้องต้น ท่านทั้งหลายมีความคล่องตัว
ทำแล้วมันรู้สึกนิ่งดี สงบดีแล้ว
ก็สำรวจสภาวะของตัวเองดูว่า
ถ้ามันเป็นสมาธิที่นิ่งจดจ่
เมื่อมันนิ่งดีแล้ว ก็ขยายการรับรู้ออกมาทั่วทั
มันจะเกิดความรู้สึกตัวทั่ว
จิตมันจะเป็นกลางตั้งมั่นขึ
เกิดความรู้พร้อมทั้งกายทั้
.
สำหรับคนใหม่หรือว่าคนที่ฝ
อาจจะอาศัยอุปกรณ์การหายใจเ
สูดลมเข้าจนเต็มปอด กลั้นลมหายใจสักเล็กน้อย
มันจะเกิดความรู้สึกตัวขึ้น
ค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกสบาย ๆ
ถ้าใครใช้วิธีนี้ได้แล้วรู้
ตรงนี้จะส่งเข้าสู่สภาวะควา
.
พอรู้สึกตัวทั่วพร้อมเป็น
ก็แช่อยู่กับความรู้สึกทั่ว
สภาวะของความรู้สึกตัวทั่วพ
ความรู้สึกตัวของร่างกายในส
มันก็จะเกิดความรู้สึกชา ๆ ซ่าน ๆ ตามตัว หัวตัวแขนขา
อาการหนึบ ๆ หยุ่น ๆ คล้ายสนามพลัง
บางทีก็เหมือนกระแสไฟฟ้าวิ่
เกิดอาการ ปิติ ตัวโยกโคลงทั้งตัวบ้าง ขนลุกทั้งตัวบ้าง
เกิดกระแสความร้อนทั้งตัวบ้
บางทีก็เกิดอาการแข็งเป็นหิ
บางทีก็เกิดอาการตัวลอยตัวเ
เกิดอาการขยายตัวหดตัวบ้าง
อันนี้คือสภาวะของชั้นสัมมา
.
ในอานาปานสติจากฐานกายเข้า
รู้ปิติก็คือสภาวะของความรู
อันนี้เป็นสภาวะชั้นต้นของส
คือความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
มันจะเป็นความรู้สึกของร่าง
ใครปฏิบัติไปเคยเจอบ้าง
ซาบซ่านทั่วทั้งตัว ขนลุกขนพองทั้งตัว
อาการความรู้สึกตัว ถ้าเรานิ่งเป็นแล้วจะเกิดสภ
แล้วเราแช่อยู่กับความรู้สึ
สติสัมปชัญญะของเราจะพัฒนาไ
เรียกว่ามันเต็มฐานความรู้ส
จากนั้นก็ฝึกรู้สึกทั้งตัวไ
ยืน เดิน นั่ง นอน ทำอะไรก็รู้สึกทั้งตัวไปเลย
สติสัมปชัญญะก็จะละเอียดขึ้
.
ถ้าเราปฏิบัติไปเรื่อย ๆ สติสัมปชัญญะละเอียดขึ้น
จากความซาบซ่านทั่วทั้งตัว ก็จะเกิดความสุข เบาสบาย
เบากาย เบาใจ เกิดความโปร่งโล่งเบาสบาย
ถ้าเราพัฒนาสติมาถึงโปร่งโล
เราจะพบเลยว่าที่จริงแล้วนี
จากภายนอกที่ไหนเลย อยู่ภายในใจของเรานี่เอง
จะพบกับความสุขเบาสบาย ที่มันประณีตขึ้นโดยลำดับ
จากที่เคยเป็นคนเครียดคิดว่
ความเร่าร้อนเหล่านี้จะหายไ
ต่อให้เรามีเงินทองมากมายสั
มีอำนาจมากมายสักเพียงใด
ก็ไม่สามารถที่จะพบกับความส
แต่สามารถพบได้จากการปฏิบัต
ทำให้เราเข้าถึงความสุขที่แ
.
ความสุขจากชั้นโปร่งโล่งเบ
กายเบาจิตเบาโปร่งโล่งเบาสบ
ปฏิบัติไปก็เหลือแต่ความเบา
แต่จากนั้นมันก็จะละเอียดขึ
นี่คือสภาวะของสัมมาสมาธิ ใจเราก็จะนิ่งขึ้นสงบขึ้นตั
จากนั้นก็จะพาเดินจิตพลิกเป
เกิดการแยกธาตุแยกขันธ์ เกิดการรู้เห็นตามความเป็นจ
สภาวะของสัมมาญาณทุกสิ่งทุก
ก็จะเกิดการแยกธาตุแยกขันธ์
มิติใครมิติมัน เกิดดับของใครของมัน
เห็นขันธ์ทั้งห้า เกิดดับตามความเป็นจริง
เกิดญาณเห็นจิตสภาวะของสัมม
.
เกริ่นให้ท่านทั้งหลายเข้า
จากสัมมาสติตั้งกายตรงดำรงส
เข้าสู่สัมมาสมาธิเกิดความร
เกิดการรู้จิต พลิกเป็นสัมมาญาณ
เกิดการเห็นธรรมตามความเป็น
เข้าสู่สัมมาวิมุต จิตหลุดพ้น นิโรธอวิชชาดับ
สเต็ปการปฏิบัติก็จะเป็นแบบ
ถ้าเราดำเนินได้ถูกต้อง
สติสัมปชัญญะก็จะพัฒนาไปแนว
..........................
ธรรมบรรยาย โดยพระมหาวรพรต กิตติวโร (ป.ธ.๖)
Admin_support
ผู้ดูแล
Admin_support
9 มิ.ย. 2562 18:08 #6
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
หากว่าโลกนี้ไม่มีธรรมชาติท
การเกิด การแก่ การเจ็บ และการตาย
ก็จะไม่มีพระพุทธเจ้าเสด็จอ
พระสัจธรรมก็ไม่ต้องแพร่หลา
แต่เพราะว่าโลกนี้มีธรรมชาต
การเกิด การแก่ การเจ็บ และการตาย
จึงต้องมีพระพุทธเจ้าเสด็จอ
พระสัจธรรมจึงต้องแพร่หลายไ
.
ทรงตรัสว่าเมื่อมีธรรมชาติ
การเกิด การแก่ การเจ็บ และการตาย
ก็ต้องมีธรรมชาติที่พ้นจาก
การเกิด การแก่ การเจ็บ และการตาย
เมื่อมีกองทุกข์ก็ต้องมีธรร
ที่พ้นจากกองทุกข์ทั้งปวง
นั่นคือธรรมชาติที่แท้จริงท
และทรงประกาศพระสัจธรรม
.
หนทางที่จะเข้าถึงธรรมชาติ
ที่พ้นจากกองทุกข์ทั้งปวงได
ธรรมชาติ พระองค์ทรงแบ่งไว้สองประเภท
.
ที่เรียกว่า #สังขตธรรม ธรรมชาติของมันก็คือ
#มีการเกิดปรากฏมีการเสื่อม
#เมื่อตั้งอยู่ก็เปลี่ยนแปล
.
ส่วนธรรมชาติอีกประเภทหนึ่ง
ที่เรียกว่า #อสังขตธรรม
ลักษณะของอสังขตธรรมก็คือ
#ไม่มีการเกิดปรากฏ #ไม่มีการเสื่อมปรากฏ
#คงสภาวะเช่นนั้นเอง
.
สภาวะของอสังขตธรรมนี่
#จะเป็นสภาวะรู้ที่บริสุทธิ
เป็นความว่างที่บริสุทธิ์อย
ธาตุรู้กับวิญญาณขันธ์เป็นค
สภาวะของอสังขตธรรมหรืออมตะ
#จะเป็นแค่สภาวะรู้ที่ไร้ตั
ที่เรียกว่าสุญญตาและเป็นคว
.
ทุกคนมีส่วนหนึ่งของธาตุรู
ถ้าไม่มีส่วนนี้ จะพ้นจากกองทุกข์ไม่ได้เลย
แต่เพราะความไม่รู้จึงถูกอว
ถูกความหลงเข้าครอบงำ
จากนั้นก็หลงวกวนอยู่ในวัฏส
เกิดแก่เจ็บตายวนเวียนอยู่ร
♥ดั่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัส
#เพราะสัตว์โลกไม่รู้พระสัจ
#จึงถูกอวิชชาเป็นเครื่องกั
#จึงต้องท่องเที่ยวไปในวัฏส
#ไม่สามารถที่จะกำหนดถึงเบื
.
สมมุติว่านำดินมาทั้งโลกนี
มาปั้นเป็นลูกเล็ก ๆ เท่าลูกกระเบ้า
สมมุติว่าก้อนนี้แทนผู้ที่เ
ก้อนนี้แทนผู้ที่เคยเกิดเป็
นำมานับอย่างนี้อยู่ร่ำไป ปรากฏว่าดินทั้งโลกหมดก่อน
แต่ผู้ที่เคยเกิดเป็นพ่อเรา
วัฏฏะสงสารมันยาวนานเช่นนั้
การเกิดทุกคราวก็ต้องพบกับค
ต้องพบกับสภาพของการเกิด
สภาพของการเจ็บไข้ได้ป่วย
สภาพของการแก่ สภาพของการตาย
เกิดแก่เจ็บตายวนเวียนอยู่ร
ตราบใดที่เรายังไม่พบพระสัจ
ไม่แทงตลอดความจริงของธรรมช
ชีวิตของเราท่านทั้งหลายก็จ
ในวัฏสงสารเช่นนี้อยู่ร่ำไป
.
ปัจจุบันจึงนับว่าเป็นโอกา
ที่เราท่านทั้งหลายได้มีโอก
ได้มีโอกาสที่จะทำตามคำสอนข
ทำที่พึ่งให้กับตนเอง ก็จะเป็นโอกาสอันดีของชีวิต
ที่จะสามารถหลุดพ้นจากวังวน
.
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
#สติปัฏฐานสี่เป็นทางสายเดี
#ที่จะหลุดพ้นจากกองทุกข์ได
คำว่าสติที่เป็นทางสายเดียว
ที่จะพ้นจากกองทุกข์ได้ก็คื
ที่เป็นอมตะธรรมนั่นแหละ
เมื่อใดที่สามารถเข้าถึงสภา
ก็จะหลุดจากกองทุกข์หลุดจาก
.
เพราะฉะนั้นการปฏิบัติธรรม
เราจะใช้วิธีเบื้องต้นอย่าง
จะพ้นจากกองทุกข์ได้
#ต้องเข้าถึงสภาวะรู้ที่เรี
#สภาวะของมันจะเป็นแค่สภาวะ
#ไม่อะไรกับอะไรเลย #ไร้ตัวตนไร้ความยึดติด
#ซึ่งทุกคนมีส่วนหนึ่งของสภ
แต่ถูกอวิชชาเข้าบดบัง ถูกความหลงเข้าบดบัง
.
ดั่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัส
จิตนี้ประภัสสรผ่องใสมาแต่เ
แต่เศร้าหมองเพราะอุปกิเลสจ
#ประดุจพระจันทร์ในวันเพ็ญง
#ถูกเมฆหมอกเข้าบดบังพระจัน
#ถูกความคิดปรุงแต่งถูกความ
เกิดตัวตนเกิดภพเกิดชาติหลง
การที่เราจะออกจากวังวนเหล่
ก็ด้วยการปฏิบัติธรรม คือ การเจริญสติปัฏฐานสี่
..........................
ธรรมบรรยาย โดยพระมหาวรพรต กิตติวโร (ป.ธ.๖)
Admin_support
ผู้ดูแล
Admin_support
9 มิ.ย. 2562 18:10 #7
ใครเคยรู้สึกได้ #กระแสของธรรมารมณ์
#ที่มันผุดจากใต้ลิ้นปี่ขึ้
ตรงนี้ถ้าในอภิธรรมจะเรียกว
ที่ว่าจิตเกิดจากหทัยวัตถุ
จริง ๆ มันเป็นแค่กระแสของธรรมารมณ
เราจะทันกระบวนการนี้หรือเห
สติเราต้องมีความละเอียดพอ
มันมีสิ่งเดียวเท่านั้นที่เ
.
กิเลสทั้งหมดเวลามันเกิดขึ
มันเกิดขึ้นจากใต้ลิ้นปี่นี
มันผุดขึ้นมา ๆ แล้วมันออกที่ประตูญาณ
อันนั้นจริง ๆ แล้วมันเป็นแค่ธรรมารมณ์
เป็นตัวจิตสังขารก็ได้แล้วแ
กิเลสรักโลภโกรธหลงทั้งหมดเ
ทั้งภายในและภายนอกไม่ใช่เฉ
บางทีกระแสจิตไปรับอารมณ์ขอ
มันก็จะมาผุดตรงนี้ ถ้าสติเราละเอียดระดับหนึ่ง
เราจะรู้เลยกิเลสมันเกิดจาก
มันก็เกิดจากตรงนี้แหละ รักโลภโกรธหลงเกิดดับๆๆไป
.
แต่ตรงนั้นมันยังไม่ใช่ตัว
มันเป็นแค่กระแสที่เกิดดับอ
ตัวอวิชชามันจะเป็นจิต ที่มันคู่กับสติตัวจริงหรือ
โดยปกติธรรมชาติมันจะอยู่ที
แต่บางคนอาจจะเลื่อนลงมาได้
ถ้าเราปฏิบัติไปเกิดความตื่
แล้วมันมีตัวอวิชชาบังอยู่ท
ตัวอวิชชาหรือตัวจิตตัวนี้ห
ที่เขาฝึกกันดูนู้นดูนี่ ก็คือตัวจิตที่มันไปส่อง
แต่มันมีสภาวะรู้ของจริงอยู
ถ้าจะดับทั้งหมดต้องดับที่ต
สภาวะรู้ของจริงนี้ เห็นได้ทั้งตัวจิต
และตัวธรรมารมณ์ที่ผุดขึ้นจ
.
ถ้าสติมีความคมพอมันจะใสเห
เวลาฝึกใช้ญาณต่างๆ ก็ฝึกกันตรงนี้แหละ
ทีนี้ถ้าเราไปฝึกดูจิต ฝึกดูธรรมารมณ์
สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคืออะไ
ให้ไปดูจิตเกิดดับก็ไปดูกระ
ตัวอวิชชาทุนเดิมมันก็ใสของ
ส่วนตัวนี้มันเป็นกิเลสที่ผ
แต่เมื่อใดที่ดูมัน ตัวนี้จะเกิดจิตส่งออก
ไปจับปุ๊ปแล้วมันจะกลายเป็น
จริง ๆ วิธีที่ถูกต้อง ต้องวางปล่อยมัน อยู่กับรู้ไปเรื่อย ๆ
ตัวนี้มันก็จะแค่ผุดออก ๆ ๆ
ไม่มีการปรุงแต่งเป็นอัตตาต
มันจะเป็นแค่กระแสพลังงานที
.
สติตรงนี้มันคือสภาวะของสต
โปร่งโล่งเบาสบาย ตรงนี้ก็เหมาะที่จะพลิกเป็น
แล้วเราพลิกเป็นญาณทัศนะ ตรงนี้นี่จะเกิดสิ่งที่เรีย
ก็คือตัวสติกับตัวจิตมันแยก
มันจะเห็นจิตเกิดดับได้เลย
สติในระดับนี้มีความละเอียด
ที่ว่าจิตมันเกิดดับรวดเร็ว
แต่ถ้าเราพัฒนาสติมาระดับนี
เราจะเห็นการเกิดดับของมันไ
ที่เรียกว่าญาณเห็นจิตหรือญ
ทีนี้ถ้าวางหมดจดหรือเดินจิ
ก็คือปล่อยให้ตัวจิตหรือตัว
นั่นแหละคือสภาวะของนิโรธ
มันจะเหลือแต่สภาวะรู้ที่บร
.
อยู่กับรู้ตรงนี้ก็คืออยู่
ที่เรียกว่าจิตคือพุทธะ
สภาวะรู้ของหลวงปู่ดุลย์คือ
ไม่ใช่ตัวจิต ตัววิญญาณขันธ์
จริง ๆ ถ้าเราฝึกอยู่กับรู้เป็นเลย
แล้วอยู่กับรู้ไปเลยนี่มันจ
คือมันไร้ตัวตน มันจะเป็นแบบที่หลวงพ่อพุทธ
ท่านพูดว่าจิตว่าง มันว่างจากอัตตาตัวตน
คือตัวตนมันหายไป
สภาวะมันก็มีอยู่ปกติแต่ตัว
.
ทีนี้จะลองให้ท่านทั้งหลาย
ลองผ่อนคลายสบาย ๆ ดู
วางการกำหนดทุกสิ่งทุกอย่าง
อันนี้เข้าถึงได้ด้วยการปฏิ
ให้รู้จักสภาวะรู้ ให้อยู่กับรู้เป็น วางทุกสิ่งทุกอย่าง
ไม่ต้องไปรู้อะไรเลย ก็จะพบว่ามันก็รู้อยู่ดี
#สภาวะรู้ ที่มันไม่รู้อะไรเลยนั่นแหล
ให้อยู่กับรู้ไปเรื่อย ๆไม่ต้องไปรู้อะไรเลย
วางทุกสิ่งทุกอย่างไม่ต้องไ
#มันจะเหลือแค่รู้แค่นั้นเอ
.
อาการดูนี่แหละ ตัวจิตเกิดขึ้น
มหากาพย์แห่งวัฏสงสาร
ที่ปฏิบัติมันพ้นไม่ได้ก็เพ
ถ้าเราวางได้หมดมันจะเหลือแ
ถ้าอยู่กับรู้เป็น อวิชชามันจะไม่เกิด
เพราะฉะนั้นการปฏิบัติจริง ๆ
มันจะเหลือแค่สภาวะรู้อย่าง
เอาไปลองฝึกดูเล่น ๆ นะ
.
ส่วนใหญ่เราฝึกชอบติดตามดู
นั่นแหละคือตัวจิตที่มันเกิ
อาการตัวจิตจริง ๆ มันจะเรียกว่าเป็นอาการดูก็
ถ้าเราละเอียดพอเราจะเห็นกา
มันเป็นอาการดู ดูตรงไหนจิตมันก็จะส่งออกไป
แล้วมันก็จะเกิดการยึดมั่นท
#ส่วนสติตัวจริงมันจะเป็นแค
#สภาวะรู้ ที่มันไม่มีอะไรเลย
#มันไม่อะไรกับอะไรเลย มันเป็นสภาวะรู้อย่างเดียว
#แล้วมันไม่ยึดมั่นอะไรเลยท
ไม่มีสภาวะที่เรียกว่าการยึ
มันเป็นสภาวะของอมตะธรรม
แต่ถ้าเรายังทำไม่เป็นก็อาศ
เป็นฐานไปก่อน แล้วพอวางได้ทุกอย่าง
ตัวอวิชชามันจะดับไป
วัฏฏะมันเป็นแค่สภาวะหลงที่
ปฏิบัติทั้งหมดมันต้องทวนกร
..........................
ธรรมบรรยาย โดยพระมหาวรพรต กิตติวโร (ป.ธ.๖)
Admin_support
ผู้ดูแล
Admin_support
9 มิ.ย. 2562 18:12 #8
พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า
#เมื่อสัมมาสมาธิเกิดเป็นปร
#มันจะแวดล้อมด้วยอริยมรรคท
เรียกว่าเกิดมรรคสมังคี
จากความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
อริยมรรคมีองค์แปดก็จะเกิดข
ก็จะเกิดการแทงตลอดอริยสัจใ
ตัดที่ตัณหาอุปาทาน จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า
#สักแต่ว่ารู้ #สักแต่ว่ารู้สึก
#สักแต่ว่าเห็น #สักแต่ว่าได้ยินขึ้นมา
เกิดการปล่อยวางในชั้นต้น
.
เมื่อเราพัฒนาสติขึ้นมาตรง
#ถึงเน้นให้ฝึกอยู่กับความร
เช่นวิธีที่แนะนำไว้ #สูดลมหายใจเข้า #หยุดลมหายใจ
ค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออก
ค่อย ๆ ทำไปเราจะพบว่ามันนิ่งอยู่ก
แล้วมันจะเกิดความรู้สึกตัว
วิธีนี้ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จ
ความรู้สึกทั้งตัวได้อย่างร
.
#หรือใครจะใช้วิธีการสแกนร่
#ไล่ไปหัวตัวแขนขาแล้วขยายค
ไม่ได้รู้ทีละส่วนแล้ว รู้ทั้งตัวออกไปเลย
#ส่วนใครถนัดที่จะจดจ่ออยู่
เช่นปลายจมูก ท้อง หรือเวลาเดินถนัดจดจ่ออยู่ท
#พอทำแล้วก็ฝึกที่จะขยายรู้
จะพลิกเข้าสู่สภาวะของชั้นส
จิตตั้งมั่น จิตเป็นกลาง เกิดความตื่นรู้
มันจะเกิดความรู้สึกทั้งตัว
.
สภาวะของความรู้สึกทั้งตัว
หลัก ๆ มันจะเป็นความรู้สึกของร่าง
สภาวะนี้มันจะเกิดความรู้สึ
ปฏิบัติไปเคยเป็นไหม ไม่ใช่เหน็บกินนะ
อาการหนึบ ๆ หยุ่น ๆ คล้ายสนามพลังทั่วทั้งตัว
มันเป็นสภาวะระดับเดียวกันข
บางทีมันก็เกิดขนลุกทั้งตัว
มีอาการยุบยิบยุบยับเหมือนม
อาการตัวโยกโคลงทั้งตัว
#ตรงนี้วิธีพลิก ถ้าปฏิบัติฝึกแบบเพ่ง
#พอเกิดตัวโยกทั้งตัวให้พลิ
#ตรงตัวโยกโคลงมันจะพลิกมาเ
ที่เรียกว่า รู้ปิติ ในอานาปานสติ
มันเป็นสภาวะของชั้นสัมมาสม
เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน
สติจะวางจากฐานกายเข้าสู่ฐา
ความรู้สึกตัวทั่วพร้อม ภาษาอภิธรรมเรียกว่า
เหลือแต่ปรมัตถธรรม เหลือแต่ความรู้สึกล้วน ๆ
.
#บางทีก็เกิดอาการซ่าน ๆ ทั้งตัว
#คล้ายสนามพลังคล้ายกระแสไฟ
#บางทีปฏิบัติไปเกิดกระแสคว
#บางทีก็เกิดกระแสความเย็น
#บางทีก็เกิดอาการแข็งเป็นห
เคยเป็นไหม หรือเกิดสภาวะธรรมแบบนี้ไหม
.
ถ้าเราไม่เข้าใจสภาวธรรม
เราปฏิบัติไป เราก็งง ไม่รู้ว่าคืออะไร
แต่ให้สังเกตว่า #ใจเรามันนิ่งขึ้นอยู่กับตั
มันเป็นผลของการปฏิบัติ
#เมื่อใจเรานิ่งเป็น #ดำรงสติมั่นเป็น
#ปล่อยวางเรื่องภายนอกเป็น
#มันจะเกิดสภาวะนี้ขึ้นมาเอ
มันเป็นสภาวะที่มีอยู่แล้วโ
.
บางทีก็เกิดอาการตัวลอยทั้
ขยายทั้งตัวใหญ่ ตัวหนัก ตัวเล็ก เป็นต้น
มันเป็นสภาวะของความรู้สึกต
ที่เรียกว่านามกายก็ได้ จะเรียกว่ากายในกายก็ได้
สติปัฏฐานที่พระพุทธเจ้าทรง
พิจารณากายในกาย เวทนาในเวทนา
จิตในจิต ธรรมในธรรม
มันเป็นสภาวะของนามกายข้างใ
เป็นสภาวะชั้นสัมมาสมาธิขึ้
เมื่อใดที่เราพัฒนาสติให้มี
ก็จะเกิดสภาวะพวกนี้ขึ้นมา
ก็ให้แช่อยู่กับความรู้สึกท
.
ส่วนวิธีมาอาจจะแตกต่างกัน
ก็ให้มาฝึกที่จะรู้สึกทั้งต
แล้วการปฏิบัติของเราจะต่อย
ความรู้สึกทั้งตัว รู้สึกตัวทั่วพร้อมนี่
มันจะเป็นรอยต่อทั้งภาคสมถะ
และวิปัสสนาญาณทัศนะ
พลิกไปมาได้ระหว่างสัมมาสมา
ถ้าเราไม่ทำจิตให้เป็นกลาง รู้ตัวทั่วพร้อม
เราจะพลิกจิตไปมาแบบนี้ไม่ไ
เรียกว่ายกจิตเข้าสู่ชั้นปั
เข้าสู่ชั้นวิปัสสนาญาณไม่ไ
.
แต่ถ้าเราเข้าสู่กระบวนการ
คือความรู้สึกตัวทั่วพร้อม จะต่อยอดเข้าสู่สัมมาญาณได้
ที่เรียกว่าเห็นตามความเป็น
#ถ้าเราจะพัฒนาสัมมาสมาธิให
#ก็ให้แช่อยู่กับความรู้สึก
นั่งอยู่ก็รู้สึกทั้งตัว ยืนก็รู้สึกทั้งตัว เดินก็รู้สึกทั้งตัว
นอนก็รู้สึกทั้งตัว ทำอะไร ๆ ก็ฝึกที่จะรู้สึกทั้งตัวไปเ
สติสัมปชัญญะก็จะพัฒนาได้เต
..........................
ธรรมบรรยาย โดยพระมหาวรพรต กิตติวโร (ป.ธ.๖)
Admin_support
ผู้ดูแล
Admin_support
9 มิ.ย. 2562 18:14 #9
ความรู้สึกตัวทั่วพร้อม นี่มีประโยชน์มาก
มันเป็นภาคพลังงานของมนุษย์
#ถ้าเราอยู่กับความรู้สึกทั
#เราจะรู้สึกว่าเต็มเปี่ยมไ
#อะดรีนาลีนเต็มเปี่ยม
แล้วความรู้สึกตัวนี่มันเป็
คนเราทุกวันนี้เครียดเยอะ วิตกกังวล เร่าร้อน
#ลองมาอยู่กับความรู้สึกตัว
#มันจะหลุดจากความคิดปรุงแต
ความเครียดหายไป ความเบาสบายเกิดขึ้นมาแทน
ความสุขเกิดขึ้นมา มีความเย็นเป็นสุข
ลดการแสวงหาจากภายนอก
เวลาเรานอน เราก็หลับไปกับความรู้สึกทั
มันจะหลับง่าย หลับลึก มีความสุข
ตื่นมาก็สดชื่น ไม่ฟุ้งซ่าน
.
เพราะฉะนั้นประโยชน์มันช่วย
เมื่อเราอยู่กับความรู้สึกท
สุขภาพเราก็จะดีขึ้น
#ความรู้สึกตัวทั่วพร้อม #จะช่วยปรับสมดุลในร่างกาย
ถ้าเราเดินจิตเป็น มันจะพลิกไปตามธาตุต่าง ๆ ได้ด้วย
แปรไปเป็นธาตุไฟ เกิดกระแสความร้อนทั้งตัว
เกิดกระแสความเย็น แปรไปเป็นธาตุน้ำ ธาตุลม
ก็จะปรับสมดุลธาตุร่างกายเร
.
ที่ทุกวันนี้สุขภาพเราไม่แข
#หนึ่งเป็นเพราะความเครียด วิตกกังวล
#สองเพราะร่างกายมันไม่สมดุ
ความรู้สึกตัว ถ้าเราอยู่กับมันเป็นประจำ มันจะปรับสมดุล
เราจะรู้สึกว่าสุขภาพเราแข็
กระปรี้กระเปร่าขึ้น มีพลังในการใช้ชีวิต
มีพลังที่เราจะอยู่กับโลก แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตได้
ไม่จมปลักไปกับความคิด
โลกของความคิด นี่มันก่อให้เกิดความทุกข์ ความเร่าร้อน
เมื่อเรากลับมาอยู่กับความร
มันจะหลุดจากพวกนี้
.
เบื้องต้นอาศัยฐานของสติปัฏ
และฐานที่เป็นฐานใหญ่ คือฐานของเวทนา
คือความรู้สึกตัวทั่วพร้อม
ทีนี้เมื่อเราอยู่กับความรู
สติมันจะละเอียดขึ้น
มันก็จะเกิดความซาบซ่านทั่ว
#อาการซาบซ่านทั่วทั้งตัวนี
เราจะรู้สึกเลยว่า เราทรงพลังมาก
.
ถ้าเราเดินจิตในความรู้สึกต
มันเป็นภาคพลังงานของร่างกา
มนุษย์เรามีพลังงานอยู่แล้ว
เพียงแต่เราไม่ได้อยู่กับมั
#เมื่อใดก็ตามที่เราอยู่กับ
#อยู่กับความรู้สึกทั้งตัวเ
#พลังแห่งชีวิตตรงนี้ #มันจะถูกปลุกขึ้นมา
เหมือนพวกฝรั่ง ที่เขาไปฝึกของอินเดีย โยคี
พลังกุณฑาลิณีบ้าง การเปิดจักระทั้งเจ็ดบ้าง
พลังจักรวาล พลังธรรมชาติบ้าง
ที่จริงพวกนี้มันเป็นแค่ส่ว
เวทนานุปัสสานาสติปัฏฐาน
มันเป็นส่วนหนึ่งของความรู้
.
ถ้าเราดำรงสติมั่น จักระทั้งเจ็ดมันจะเปิดขึ้น
แล้วสิ่งที่ปรากฏก็คือ ปิติความซาบซ่านทั่วทั้งตัว
ที่เขาฝึกกัน ไม่ต้องไปไล่เปิดทีละฐาน ดำรงสติมั่นเป็น
#สติตั้งมั่นเป็นสัมมาสมาธิ
#จะเกิดความซาบซ่านทั่วทั้ง
#นั่นแหละจักระมันจะเปิดหมด
พลังกุณฑลิณีก็จะเกิดขึ้น
เราจะเป็นมนุษย์ที่ทรงพลังม
#เราเอาพลังตรงนี้ไปใช้กับโ
#ทำให้จิตเรามีความหนักแน่น
มีวุฒิภาวะทางอารมณ์สูงขึ้น
ปล่อยวางเรื่องราวต่าง ๆ ได้มากขึ้น
มีขีดความสามารถในการแก้ไขป
พัฒนาศักยภาพมนุษย์ของเราขึ
.
ที่เขาบอกว่ามนุษย์เราสามาร
ได้เพียงแค่สิบเปอร์เซ็นต์เ
อีกเก้าสิบเปอร์เซ็นต์มันปล
โดยการเจริญสติปัฏฐาน
พัฒนาขึ้นมา ศักยภาพของเราจะถูกปลุก
แล้วนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ทำให้เราอยู่กับโลกได้อย่าง
..........................
ธรรมบรรยาย โดยพระมหาวรพรต กิตติวโร (ป.ธ.๖)
Admin_support
ผู้ดูแล
Admin_support
9 มิ.ย. 2562 18:16 #10
แยกให้ออกระหว่าง #อาการดู กับ #อาการรู้
ถ้ารู้เป็นเมื่อไรนั่นแหละก
ที่เรียกว่าสามารถพ้นจากทุก
.
#อาการดูมันเป็นอาการของจิต
มันเหมือนไฟฉายนะ
#ฉายไปตรงไหนมันก็ส่องแค่ตร
#มันก็เห็นแค่ตรงนั้น #มันก็รู้แค่ตรงนั้น
นั่นคืออาการของจิต
.
#แต่อาการของสติ ที่เป็นสภาวะรู้
#มันเหมือนแสงเทียน มันเหมือนแสงไฟ
#มันจะสว่างออกรอบตัว
#ทุกสิ่งที่อยู่ในข่ายของมั
สภาวะของความรู้สึกตัวทั่วพ
.
จิตมันรู้ได้ทีละอารมณ์ใช่ไ
นั่นมันคือสภาวะของจิต เกิดดับ รู้ได้ทีละอารมณ์
#แต่สภาวะของสติไม่ใช่ #สภาวะของสติมันเหมือนเรด้า
#ทุกอย่างที่อยู่ในข่ายของส
เกิดพร้อมกัน ก็รู้พร้อมกัน
สติที่พูดถึงนี่คือ สติตัวจริงนะ
ภาษาพระท่านเรียกว่า ญาณทัศนะ ยถาภูตญาณทัสสนะ
การรู้เห็นตามความเป็นจริง
วิมุตติญาณทัสสนะ การรู้เห็นความหลุดพ้น
ญาณทัสสนะวิสุทธิ สภาวะนิโรธ ที่เป็นความบริสุทธิ์ล้วนๆ
มันก็คือสภาวะรู้อันนี้เท่า
แล้วแต่ภาษาจะพาไป คำว่าญาณทัศนะก็คือตัวนี้
.
#ทุกคนมีส่วนหนึ่งของสภาวะร
#การปฏิบัติก็คือเพื่อปลุกส
เพราะฉะนั้นลักษณะของการปฏิ
มันจะเป็นแค่การตื่นรู้เท่า
พอตื่นรู้แล้ว ยืน เดิน นั่ง นอน
ก็รู้ตื่นไปเรื่อย ๆ รู้ ตื่น เบิกบานไป
..........................
ธรรมบรรยาย โดยพระมหาวรพรต กิตติวโร (ป.ธ.๖)
Admin_support
ผู้ดูแล